เขาบอกว่ามีข้าวหอมนิล 2กิโล เพิ่งซื้อมาเมื่อวานจากเมืองทอง ไปเที่ยวมา ขอซื้อได้ไหม 2 โล มาทำ 1 ไร่ เขาบอกสองโล สองร้อย ได้พันธุ์เอามาคืนด้วย เขาว่าเขาไม่มีที่จะปลูกด้วยจึงได้ข้าวหอมนิลมา 2กิโลกรัม 200 บาท ได้พันธุ์ข้าวมาเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2556 วันที่ 21-25สิงหาคม 2556 ต้องไปอบรม ฝากคนอยู่บ้านช่วยกันเพาะ ในกะบะเพาะ หลอดเมล็ดหลุมละ 1 เมล็ด วันนี้กลับจากอบรมไปตรวจสอบมา เมล็ดข้าวกำลังเริ่มจะงอก
ต้นกล้าอายุ 5 วัน ดูแล้วไม่ค่อยจะถูกใจเท่าไหร เพราะไม่ได้ทำตามที่บอกไว้คือดินที่ใช้เพาะกล้า บอกให้เอาดินในนาที่ทำเทือกแล้วมาใส่ในกะบะ แล้วเอามือปาดให้เสมอ แล้วค่อยวางเมล็ดหลุมละเมล็ด แต่ที่เห็นเป็นดินทราย แต่ก็ไม่เป็นไร ทำครั้งแรกแล้วไม่ได้ทำเองได้แค่นี้ก็ดีแล้ว ครั้งหน้าค่อยว่ากันใหม่ อีกวันที่ 7-8 กันยายน จะนำลงแปลงนา แล้วคอยดูอีกทีว่าจะลงด้วยวิธีใด...............
วันนี้วันที่ 7 กันยายน 2556 ย้ายกล้าไปนา
วันนี้วันที่ 14 กันยายน 2556 หลังดำนาไป 1 สัปดาห์ น่าสงสารต้นข้าวมาก แปลงนาที่เพิ่งหักเป็นแปลงนาครั้งแรก ผืนนายังไม่เรียบเสมอกัน มีทั้งที่ต้นข้าวแห้งขาดน้ำ และต้นข้าวที่กำลังจะจมน้ำตาย เข้าใจไหมครับ พื้นที่นายังไม่เสมอกัน เมื่อวาน 13 กันยา บ่าย ๆ ฝนตกหนักมาก เย็นประมาณ 5 โมงเ้ย็นเข้าไปดูแปลงนา น้ำท่วมข้าวไม่เห็นยอดข้าวเลยสักต้น ต้องรีบปล่อยน้ำออกจากนา กลัวน้ำท่วมข้าวตาย วันนี้ เข้าไปดูใหม่ น้ำแห้งดีแล้ว แต่น่าสงสารต้นข้าว ยังไม่สดชื่นเลย ไม่กล้าถ่ายรูปมาให้ดู บันทึกไว้ว่าการทำนาครั้งแรกแสนจะทุลักทุเล น่าสงสารข้าวสุดๆ ................
วันที่ 21 กันยายน 2556 ไปดูนาอีกครั้งวันนี้ สุดแสนจะห่อเหี่ยว ปรากฎว่าเพลี้ยไฟลงแปลงนา ยอดข้าวเหี่ยวม้วนเป็นสีฟางแห้ง ถอนต้นมาดูมีตัวเพลี้ยไฟ เป็นทุกแปลงเลย เอาน้ำเข้าดูไม่รู้ว่าจะรอดหรือเปล่า เอาน้ำเข้าให้ท่วมต้นกล้า ไล่เพลี้ยไฟดู ถ้าไปได้ ต้นข้าวรอด ก็จะไม่ต้องทำใหม่ ถ้าทำใหม่ตอนนี้ก็จะล่ามากแล้ว กลัวน้ำไม่มี แต่มีบางต้นที่แตกแขนงใหม่ขึ้นมาเป็นต้นใหม่สสวยดี ทั้งที่ต้นเก่ายังเหี่ยวแห้งอยู่ ประสบการณ์ทำนาครั้งแรก และตั้งความหวังไว้ว่าจะไม่เอาเคมีเข้าแปลงนาเลย รอดก็รอด ไม่รอดปลูกใหม่ วันนี้ตอนเช้าไปเก็บแหนแดงไปเพาะไว้ในร่องน้ำ กะว่าจะค่อยๆปล่อยลไปขยายพันธุ์ในนาข้าว ............
วันที่ 21 เดือนที่แล้วเป็นวันเพาะกล้า จนถึงวันนี้ครบ 1 เดือนพอดี
วันนี้ 23 กันยายน 2556 ขึ้นไปดูข้าว น้ำในนาเยอะมากเพราะฝนตกตลอด และกักน้ำไว้ด้วย เห็นข้าวหลายต้นมีใบสีเขียวขึ้นมาบ้างแล้ว น่าจะเป็นเรื่องดี ที่ฝนตก น้ำเยอะ เพลี้ยไฟ น่าจะตกน้ำตายไปบ้างแล้ว
วันนี้วันสิ้นเดือนกันยายน หลายคนคงไม่ต้องไปทำงานในวันพรุ่งนี้ เมื่อคืนฝนตกตลอดทั้งคืน นึกว่าที่นาจะมีฝน ไปดูนามา ไม่มีฝนเลย น้ำในนาเท่าเดิม อาการข้าวดีขึ้นมาก สลัดยอดใหม่ใบเขียวสวยพอสมควร หลายคนไปดูนาแล้วถามว่าทำไมไม่พ่นยา ทำไมไม่ใส่ปุ๋ย ได้แต่ตอบเขาไปว่าไม่พ่นไม่ใส่ ให้ข้าวช่วยเหลือตัวเอง จะได้แข็งงแรง ไม่อ่อนแอ เหมือนแม่ ที่รับทั้งยาและปุ๋ยมา
วันนี้วันที่ 8 ตุลาคม 2556 ไปดูนา เห็นร่องรอยน้ำท่วมต้นข้าว เนื่องจากฝนตกหนักมาสองวันแล้ว คันเขื่อนเก็บน้ำพัง แต่ต้นข้าวเริ่มแตกกอสวยแล้ว ว่าจะถ่ายรูป ก็ไม่ได่ถ่ายสักที เสาร์นี้น่าจะได้ถ่ายรูปมาให้ดูกัน ว่าต้นข้าวนี่สุดยอดแห่งพืชจริง ๆ ไม่ยอมตายง่าย ๆ
วันนี้วันที่ 17 ตุลาคม 2556 นารีเป็นเหตุ ตกลงมาอย่างรุนแรง น้ำเต็มผืนนา เสียงเขียดระงมไปทั้งแปลงนา สภาพข้าวน่าจะสุขภาพดี อายุเกือบสองเดือน มีการแตกกอให้เห็นสีม่วง ลำต้นข้าวแข็งแรงดี สภาพในนามีหญ้าขึ้นบ้าง มีแมลงหลากหลาย แมงปอมีนับเป็นร้อยๆตัว บินวนในแปลงนา บ้างตัวจับคู่วางไข่ลงในน้ำ แมงปอเยอะมากจริงๆ อย่างอื่นที่เห็นแมลงเต่าทอง ตั๊กแตน แมลงปีกแข็ง สัตว์ปีกที่พบอีกสองชนิด คือนกกระยาง และนกกระแตแต้แหวด เดินย่ำในพื้นนาเห็นรอยเท้าเต็มไปหมด ไม่ทราบว่ามาหากินอะไร ปลาก็ไม่มี เป็นนาน้ำใส น้ำที่ใช้เป็นน้ำซึมมาจากภูเขาไหลเข้านา น้ำจะขุ่นต่อเม่อฝนตก ว่าจะเอาปลามาเลี้ยงในนา กลัวจะเป็นเหยื่อนกกระยาง
ต้นข้าวช่วงแรก ๆ หลังจากฟื้นตัวจากเพลี้ยไฟ
จะเห็นว่าฟันหลอ ตายไปก็หลายต้น แหว่งเป็นหย่อม ๆ
ให้ดูชัดๆว่าข้าวต้นเดียวเริ่มทำงานแล้ว
ต้นนี้ไม่ใช่ข้าว แต่เป็นที่เหมือนข้าวทุกอย่างเกิดขึ้นมาในกอข้าว งอกงามเบียดข้าวจนแตกกอไม่ได้ ถอนทิ้ง เวลาถอนขึ้นมาจะติดต้นข้าวขึ้นมาด้วย รากยาวมาก ต้องแยกออกเป็นต้นๆ เพื่อแกะเอาต้นข้าวลงไปปลูกใหม่
วันนี้วันที่ 19 ตุลาคม เหลืออีกสองวัน ครบ สองเดือนนับตั้งแต่วันเพาะกล้า
ให้ดูว่าข้าวหอมนิล ผ่านพ้นวิกฤติเพลี้ยไฟมาได้ด้วยตนเองอย่างไร
สารฆ่าชีวิตทั้งหลายก็ไม่ใช้ สารเคมีที่ใช้ใส่ให้พืชที่เรียกว่าปุ๋ยสังเคราะห์ ก็ไม่ใส่
ข้าวสามารถเจริญเติบโตได้ด้วยตัวเองขนาดนี้
ในนามีกบ เขียด และแมลงอื่นๆ ดำเนินชีวิตของพวกเขาตามวัฏจักร จึงมองไม่เห็นว่าเราต้องไปจัดการอะไรกับเขาให้วุ่นวาย เครื่องมือทำนา มีจอบอันเดียว ใช้สำหรับปิดเปิดน้ำ กับมืออีกสองมือที่ลงไปเดินในนาแล้วช่วยกัดการคือ ถอนหญ้า เป็นการเพิ่มออกซิเจนให้แก่ต้นข้าว ก็อยากรู้เหมือนกันว่า ข้าวที่ไม่ใส่ปุ๋ย ไม่ฉีดยาจะเป็นอย่างไร
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2556 ฝนตกตั้งแต่เย็นๆ วันที่ 7 ตกตลอดทั้งคืน เช้าวันที่ 8 จนค่ำฝนตกหนักสลับทั้งวัน เป็นเหตุให้น้ำท่วมทั่วอำเภอเขาย้อย วันนี้วันที่ 9 ฝนไม่ตกแต่น้ำยังเอ่อ ท่วมในนาบ้าง บางช่วง ที่น่าสงสารคือข้าวกำลังออกรวง โดนลมพัดแรง ข้าวล้มลงนอนราบกับผืนนา เย็นมาน้ำท่วม จะได้ข้าวไหมนี่ ไปดูนาตัวเองมา ก็ได้รับผลกระทบจากน้ำบ้าง เช่น
กระทงนี้น้ำท่วม อย่างที่เห็น แต่บ่าย ๆ ก็ลดลงปกติ
กระทงนี้น้ำพัดเอากรวดและทรายมาถมนา ทับต้นข้าวไปหลายกอ อย่างที่เห็น
กระทงนี้น้ำแห้ง เนื่องจากน้ำเซาะคันนาขาด น้ำเลยหายไปหมด
ส่วนที่ไม่เสียหายก็อยู่ในสภาพดี
การแตกกอดี แต่ถ้าสังเกตดีๆ จะมีใบแห้งด้วย เกิดจากหนอดกัดกิน น้ำท่วม น่าจะเป็นผลดีที่ตัวหนอนจมน้ำ
วันนี้วันที่ 14 ธันวา แล้ว ข้าวยังออกรวงไม่หมดทุกต้นเลย
เอาน้ำเข้านาปลายทาง
ต้นทาง รองน้ำที่ไหลมาจากภูเขา
ตารางการทำนาข้าวหอมนิล
1.เพาะกล้า วันที่ 21 สิงหาคม 2556
2.ปักดำกล้าลงแปลงนา วันที่ 6 กันยายน 2556
3.กำหนดวันเก็บเกี่ยว 21 ธันวาคม 2556
รอความรู้จากท่านครับ
ตอบลบผมแอบชื่นชมกำวิธีปลูกข้าว ผมสนใจเรื่องข้าวนิลอยู่มาก เป็นกำลังใจให้คับ ขอบคุณที่แชร์ข้อมูลคับ
ตอบลบชื่นชมค่ะ กำลังลองปลูกเช่นกันค่ะ..
ตอบลบขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม ปีที่แล้วทำแบบฉุกละหุก ตามที่เห็นรูปนะแหละ เสียเยอะ แต่ก็ได้ข้าวสีกิน ได้ข้าวเปลือก ประมาณ 20 ถัง เป็นลีบเยอะ ตอนนี้ก็สีกินอยู่ ปีนี้จะทำแบบตั้งใจ คือเตรียมพันธุ์จะลองเปลี่ยนเป็นลูกข้าวหอมนิลดู ได้พันธุ์มาแล้ว ทำนาอินทรีย์ต้องใจแข็งไม่หลอกลวงตนเอง ต้องเชื่อในแม่โพสพ
ลบดีใจด้วยที่ข้าวรอด
ตอบลบอันนั้นเป็นแบบฝึกหัด ปีที่แล้วปลูกข้าวอินทรีย์ ได้ผลดีเกินคาดครับ
ลบถูกใจจังครับ กับคำพูดที่ว่า "ทำนาอินทรีย์ต้องใจแข็ง ไม่หลอกลวงตนเอง ต้องเชื่อในแม่โพสพ"
ตอบลบมันกินใจ ได้ใจ โดนใจ