ค้นหาบล็อกนี้

วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ต้นทำมัง

ชื่อท้องถิ่น
ทำมังยอดขาว แมงดาไม้ แมงดาต้น
ชื่อวงศ์
LAURACEAE
ชื่อวิทยาศาสตร์
Litsea Petiolata L took.F. Hook.f.
ลักษณะลำต้น
เป็นไม้ยืนต้
นขนาดใหญ่ แผ่กิ่งก้าน
ออกเป็นทรงพุ่ม
ลักษณะใบ
ใบกลมมนรี ปลายแหลม ผิวใ
บด้านหน้าเขียวเข้ม เป็นมัน ขอบใบเรียว หลังใบขรุขระ
ลักษณะดอก
ปุ๋ยสีขาว ออกตามรายกิ่ง
ลักษณะผล
กลม ผลสุกสีดำ
ส่วนที่ใช้เป็นอาหาร
ยอดใบแก่ ใบเพสลาด ดอก ผล
ใช้เป็นอาหารประเภท
ใบใส่ในแกงเผ็ด หรือใบและผลแก่ใช้ตำน้ำพริก หรือใส่ในเครื่องแกงใบอ่อนและดอกอ่อนเป็นผัก
เหนาะ
รสชาติ
ฝาด มันร้อนและอมขมเล็กน้อย มีกลิ่นคล้าย แมลงดานา
ส่วนที่ใช้ขยายพันธุ์
เมล็ด การตอนกิ่งนิยมปลูกตามบ้านเป็นไม้มงคล(ธรรมมัง)
พื้นที่ที่เจริญเติบโตได้ดี
ได้เกือบทุกสภาพพื้นที่ ย
กเว้นที่มีน้ำท่วมถึงหรือน้ำขัง
ฤดูกาลที่ให้ผลผลิต
ตลอดปี
ส่วนที่เป็นพิษ
ไม่มี
ประโยชน์ใช้สอย
ลำต้นแก่ใช้แปรรูปทำบ้านเรือน ปลวก มอดไม่กิน
ความเชื่อ
นิยมปลูกตามบ้านเรือน ถือเป็นไม้มงคลมาแต่สมัยพุทธกาล
สรรพคุณทางสมุนไพร
ใบสด กินเป็นผักเหนาะ มีสรรพ
คุณช่วยขับลม แก้ท้องอืด เปลือก ผายลมในลำไส้ แก้ท้องอืดเฟ้อ แก้จุกเสียด


ทำมังเป็นต้นไม้ที่มีกลิ่
นแมงด
าอยู่ในสกุล Litsea
วงศ์ Lauraceae ทำมังพบกระจายในเขตร้อนและ กึ่งร้อนของเอเชีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และอเมริกา คนไทยเรียกต้นไม้ ที่มีกลิ่นแมง
ดาว่า ทำมังเหมือนกันหมด มีถิ่นกำเนิดและกระจายพันธุ์อยู่ใน ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ตอนล่าง (อำเภอบางสะพานและ บางสะพานน้อย) ชุมพร สุราษฎร์ธานีลงไปจนถึงนราธิวาส ส่วนใหญ่จะขึ้น อยู่ตามที่ชื้นในหุบเขา ตามริมลำธาร ในป่าดงดิบจนถึงในป่าพรุ แต่ไม่ค่อย พบในป่าบนภูเขา
ทำมังเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูง 30-44 เมตร ไม่ผลัดใบ เจริญเติบโตค่อนข้างช้ามีทรงพุ่มแบบ พีระมิดค่อนข้างโปร่ง เส้นผ่า- ศูนย์กลางที่โคนต้นประมาณ 30-40 เซนติเมตร เปลือกลำต้นมีสีน้ำตาล จนถึงเทาและมีกลิ่นฉุน มีใบเป็นแบบใบเดี่ยว เรียงสลับหมุนเวียนรอบกิ่งใบกว้าง 3-9 เซนติเมตร ยาว 6-20 เซนติเมตร ก้านใบเรียวยาว 1-2.5 เซนติเมตร แผ่นใบบางเป็นมันลักษณะใบคล้ายใบขนุน เส้นแขนงใบ 4-12 คู่ มองเห็นชัดเจนทางด้านท้องใบ (ด้านล่าง) ปลายใบทู่จนถึงแหลม บนใบมีต่อมน้ำมันและมีกลิ่นฉุน ใบแก่จะฉุนและเผ็ดมากกว่าใบอ่อน ผลมีรูปไข่ยาว 1 เซนติเมตร เมื่อผลแก่มีสีน้ำตาลแดง ภายในผลมีเมล็ด เพียงเมล็ดเดียวต้นทำมังมีทั้งต้นตัวผู้และตัวเมีย (dioecious tree) มีดอกแยกเพศ เนื้อไม้แข็งมีกลิ่นฉุน นิยมนำไม้มาทำสากและใช้ในการก่อสร้างทั่วไป ต้นที่มีขนาดใหญ่สามารถนำมาเลื่อยทำ
ไม้กระดานได้
ตามรายงานการสำรวจพันธุ์ไม้ดังกล่าวพบว่า มีต้นทำมังอยู่ใน ประเทศไทย 4 ชนิด มีลักษณะใกล้เคียงกันมากคือ
1. Litsea elliptica Boerl. มีชื่อพื้นเมือง ทำมัง มีมากที่จังหวัด สุราษฎร์ธานี ลักษณะเด่นที่แตกต่างจากพันธุ์อื่นคือ ใบรูปมนรี (elliptic) ใบเล็กกว่าพันธุ์อื่น คือ ใบกว้าง 2-6.5 เซนติเมตร ยาว 6-14 เซนติเมตร มีเส้นแขนงใบ 5-8 คู่ ฐานใบไม่เท่ากัน กระพื้ไม้สีเหลืองอ่อน มีต้นขนาดใหญ่ กว่าชนิดอื่น สูงถึง 45 เมตร เส้นรอบวงโคนต้น 240 เซนติเมตร หรือเส้น ผ่าศูนย์กลางประมาณ 40 เซนติเมตร มีก้านดอกสั้นมากเพียง 3 มิลลิเมตร
2 Litsea leiantha Hook.f มีชื่อพื้นเมือง ทำมัง พบมากที่จังหวัด สุราษร์ธานี มีลักษณะเด่นคือ ใบค่อนข้างใหญ่ ฐานใบเท่ากัน เส้นแขนงใบ และเส้นตาข่ายเห็นชัดเจนทางด้านล่างของใบ และมีก้านดอกสั้น
3. Litsea petiolata Hook.f มีชื่อพื้นเมือง ทำมัง พบมากที่จังหวัดตรัง มีลักษณะเด่นคือ ก้านใบยาวเรียว ใบมีขนาดกลาง มีกลิ่นฉุนกว่าอย่างอื่น และเป็นชนิดที่มีคนรู้จักมากกว่าชนิดอื่น
4. Litsea resinosa Bl. มีชื่อพื้นเมือง ทำมังพอกรง พบมากที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีลักษณะเด่นคือ มียางใสที่ใบ (resin) มีใบขนาดใหญ่ที่สุดคือกว้าง 4-9

ซนติ-เมตร ยาว 11-20 เซนติเมตร มีเส้นแขนงใบ 7-12 คู่ มีช่อดอก ยาวกว่าชนิดอื่นแต่มีลำต้นเล็ก กว่าชนิดอื่น คือสูง 30 เมตร เส้นรอบวงโคนต้น 180 เซนติเมตรหรือเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 30 เซนติเมตร ลำต้นมีเปลือกในสีแดง

7 ความคิดเห็น:

  1. ก็คีค่ะ มันใช้ในการศึกษาต้นไม้ที่เราไม่รู้จัก และมันยังมีประโยชน์สำหรับผู้ที่จะทำเป็นอาชีพ อาจจะปลูกขายเป็นต้นไม้หายากก็ได้ค่ะ
    เว็บนี้ดีช่วยในการศึกษาและสำหรับทำเป็นอาชีพก็ได้ค่ะ

    artittaya_ta03@hotmail.com
    น.ส.อาทิตยา กุนตนาวงศ์ ม.3/1 เลขที่ 35

    ตอบลบ
  2. ไม่เคยได้ยินชื่อเรยค่ะ แล้วกลิ่นมันเหมือนแมงดาแล้วมันจะหอมหรอค่ะ
    แล้วกลิ่นแมงดามันกลิ่นยังไงค่ะ
    ด.ญ.ปณิดา ดวงภูมิเมศร์
    panida_game@hotmail.com

    ตอบลบ
  3. ตอบ ปณิดา ไม่สามารถเอากลิ่มมาลงให้ดมได้ว่ากลิ่นแมงดาเป็นอย่างไร ไว้ว่าง ๆ จะเอาใบทำมังมาให้ดมจะได้รู้ว่ากลิ่นแมงดาเป็นอย่างไร ส่วนตัวแมงดานาที่ว่าไม่เคยเห็น วันนี้ยืมรูปจากแว็บกรุงชิงมาให้ดูว่า ไข่แมงดาเป็นอย่างที่เห็น ส่วนตัวก็ดูรูปที่เฝ้าไข่อยู่ เป็นแมงดาตัวผู้ที่เฝ้าไข่ ชาวนาจะจับแมงดาตัวผู้ที่เฝ้าไข่นี้แหละไปทำน้ำพริกแมงดา เพราะว่าแมงดาตัวผู้จะมีกลิ่น

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ29 มีนาคม 2554 เวลา 15:04

    ใครมีต้นทำมัง แมงตาแจกให้ไหมคะ
    nongtana_7045@hotmail.com

    ตอบลบ
  5. อยากได้ต้นทำมัง บ้าง ผู้ใดเมตตาวานบอก แลกกับต้นฟักข้าวได้นะค่ะ เพาะได้โตประมาณ 3 เดือน

    ตอบลบ
  6. ไม่ทราบว่าบ้านอยู่แถวไหน ต้นทำมังมีวางขายที่ "พ่อตาหินช้าง" แหล่งขายของฝากของจังหวัดชุมพร ใครลงใต้ต้องผ่านอยู่แล้ว มีใครผ่านไปลองฝากซื้อดูนะครับ เพาะในถุงชำ สูงประมาณ 50 เซ็น บอกขาย 3 ต้น ร้อย เพิ่งผ่านไปเมื่อสงกรานต์มีเยอะ ใครผ่านไปลองฝากดูนะครับ มีต้นไม้พื้นเมืองของภาคใต้หลายชนิดที่วางขาย ราคาไม่แพงครับ

    ตอบลบ
  7. วันนี้ดีใจมากได้ต้นทำมังดั่งที่เคยตั้งใจเอาไว้ว่าสักวันจะหามาปลูกให้ได้ สมใจแล้วงานฤดูหนาวลำปาง

    ตอบลบ